Active Generations Health รวมหลักการทานอาหารระหว่างการทำเคมีบำบัดที่ผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งควรรู้

รวมหลักการทานอาหารระหว่างการทำเคมีบำบัดที่ผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งควรรู้

ดูแลผู้ป่วยมะเร็ง

หากว่าเอ่ยถึงเคมีบำบัด หลายคนคงคุ้นหูกันบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งเคมีบำบัดนั้นหมายถึงการใช้ยาสำหรับทำลายการเติบโตของเซลล์มะเร็ง ทั้งนี้ก็เพื่อการรักษาโรคมะเร็ง โดยมีทั้งการให้ยาเพียงชนิดเดียวและมากกว่าหนึ่งชนิด ขึ้นอยู่กับอาการป่วยของผู้ป่วยนั้นมากน้อยเพียงใด ซึ่งในระหว่างการทำเคมีบำบัด สิ่งที่ผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งควรคำนึงถึงมากที่สุดก็คือการรับประทานอาหารนั่นเอง  โดยอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยมีดังนี้ 

1.ไข่ 

ในไข่อุดมไปด้วยโปรตีนจำนวนมาก อีกทั้งยังย่อยง่าย สามารถปรุงอาหารได้อย่างหลากหลาย จึงเหมาะสมกับการนำมาปรุงอาหารให้ผู้ป่วยได้รับประทาน โดยโปรตีนในไข่จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเป็นพลังงานให้กับร่างกาย ช่วยลดความอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด 

2.ข้าวไม่ขัดสี 

การรับประทานข้าวคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในระหว่างการทำเคมีบำบัด เนื่องจากว่าข้าวเปี่ยมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเป็นพลังงานหลักของร่างกาย ผู้ดูแลผู้ป่วยมะเร็งควรเน้นให้รับประทานข้าวไม่ขัดสี เนื่องจากอุดมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารมากกว่าข้าวขาวธรรมดา นอกจากนี้ในข้าวไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ยังมีไฟเบอร์ ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งนั้นสามารถขับถ่ายได้ง่ายอีกด้วย 

3.ถั่วเปลือกแข็ง 

เนื่องจากในช่วงที่ทำเคมีบำบัด ผู้ป่วยจะไม่สามารถรับประทานขนมขบเคี้ยวได้ทุกชนิด ทั้งขนมหวาน ของทอด ของมัน ดังนั้นจึงควรทดแทนของขบเคี้ยวด้วยถั่วเปลือกแข็งชนิดต่างๆ เช่น อัลมอนด์ พิชตาชิโอ แมคคาเดเมีย เป็นต้น เนื่องจากถั่วเปลือกแข็ง มีคุณค่าทางสารอาหารหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นไขมันชนิดไม่อิ่มตัว ซึ่งจะมีส่วนช่วยป้องกันเซลล์ต่างๆ ภายในร่างกายไม่ให้เกิดโรคมะเร็ง ทั้งนี้ในถั่วยังมีพลังงานสูง จึงเหมาะสมกับผู้ป่วยที่รับประทานอาหารได้ทีละน้อยๆ อีกด้วย  

3.เนื้อปลา 

เนื้อปลาจัดได้ว่าเป็นแหล่งอาหารชั้นยอดของผู้ป่วยโรคมะเร็ง จุดเด่นคือย่อยง่ายและมีสารอาหารครบถ้วน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายชนิด ทั้งปลานึ่งบ๊วย หรือต้มยำปลา ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารให้กับผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ปลายังช่วยไม่ให้เกล็ดเลือดจับตัวกัน และยังมีวิตามินเอ ดี อี และเคอีกด้วย 

4.นม 

ในนมอุดมไปด้วยโปรตีน อีกทั้งยังดื่มง่าย โดยควรเลือกดื่มนมประเภทพร่องมันเนย หรือหากผู้ป่วยโรคมะเร็งแพ้นมวัวหรือไม่สามารถย่อยนมวัวได้ อาจเลือกเป็นนมที่ไม่มีแลคโตส เพื่อป้องกันการท้องอืดที่อาจเกิดในภายหลัง 

จะเห็นได้ว่าการดูแลผู้ป่วยมะเร็งในระหว่างที่ทำเคมีบำบัดจะต้องระวังเรื่องอาหารอย่างมาก ดังนั้นจึงควรใส่ใจสักนิดก่อนจะให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารใดๆ ก็ตาม และหลีกเลี่ยงอาหารปนเปื้อน อาหารสุกๆ ดิบๆ อาหารที่อาจมีสารเคมีต่างๆ เพื่อให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งแข็งแรงตลอดการทำเคมีบำบัดและไม่เกิดอาการแทรกซ้อนนั่นเอง 

Related Post

เหตุผลของการเลือกเดิน

เหตุผลของการเลือกเดินเหตุผลของการเลือกเดิน

ตอนนี้ถ้าจะพูดถึงเรื่องของการออกกำลังกายหรือกีฬาที่ได้รับความนิยมสำหรับคนยุคปัจจุบัน คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการวิ่งหรือการเดินแต่ทั้งนี้การเดินเรียกได้ว่าได้รับความนิยมมากกว่าเพราะเป็นการออกกำลังกายที่เริ่มได้ง่าย แต่บางคนก็อาจจะไม่เข้าใจว่าแค่การเดินสามารถที่จะช่วยให้เรานั้นดูแลรูปร่างรวมถึงสุขภาพได้อย่างไรเพราะฉะนั้นเรามาดูคำตอบจากบทความด้านล่างนี้ดีกว่าว่ามีเหตุผลอะไรจึงทำให้เราควรที่จะต้องเดิน 1.ลดความเครียด             สำหรับการเดินทางก็เป็นเหมือนรูปแบบของการออกกำลังกายที่สามารถจะช่วยลดความเครียดและความกังวลต่างๆได้เป็นอย่างดี เป็นเพราะร่างกายได้มีการออกกำลังกายและกระตุ้นในส่วนของสารเอ็นโดรฟินที่จะทำให้เกิดความสุข เพราะฉะนั้นก็สามารถที่จะลดความเครียดและความกังวลต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะใครที่มีปัญหาในเรื่องของการเป็นโรคเครียดบอกได้เลยว่าการออกกำลังกายด้วยการเดินนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายและสามารถที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ง่ายมากที่สุด 2.ลดน้ำหนัก             การเดินเป็นอีกหนึ่งวิธีสำหรับการออกกำลังกายที่สามารถจะช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักได้ดี ต้องบอกเลยว่าเป็นรูปแบบของการออกกำลังกายที่ทำให้เราเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และไม่จำเป็นที่จะต้องมีอุปกรณ์เฉพาะอะไรแต่ต้องบอกก่อนเลยว่าถ้าหากใครไม่เคยแม้แต่จะออกกำลังกายมาก่อนการเริ่มต้นด้วยการเดินเพียงแค่ 20 นาทีทุกวันก็จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สามารถปรับสภาพร่างกายได้ดี ทั้งนี้ควรที่จะต้องมีการตั้งเป้าหมายเอาไว้อยู่ที่ 30 นาทีต่อวันจะดีที่สุด 3.ลดความดัน             นอกจากการเดินจะสามารถลดความเครียดได้แล้วยังสามารถที่จะช่วยควบคุมระดับความดันในเลือดได้ดี โดยเฉพาะใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของความดันนั้นต้องบอกเลยว่าการเดินเป็นการออกกำลังกายที่จะทำให้ระบบต่างๆภายในร่างกายทั้งหมดนั้นมีความสมดุลในการทำงาน ดังนั้นทำให้ระบบความดันรวมถึงระบบต่างๆภายในร่างกายทำงานมีความพร้อมเพียงกันและสามารถที่จะควบคุมระดับความดันในร่างกายได้ดีด้วย             เพราะฉะนั้นทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมาล้วนแล้วแต่เป็นเหตุผลที่ดีที่จะช่วยทำความเข้าใจได้ว่าการออกกำลังกายด้วยการเดินถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ทั้งนี้บอกว่าในความเป็นจริงแล้วเราไม่จำเป็นที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรเลยแม้แต่น้อยเพียงแค่มีรองเท้ากับพื้นที่ที่เหมาะสมก็สามารถที่จะออกกำลังกายได้แล้ว อย่างนี้ต้องบอกไปว่าสำหรับใครที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไปก็จะต้องระมัดระวังไม่ให้กระทบกระเทือนกับข้อต่างๆ

ตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน

Q&A กับคำถามต่างๆ ของสุขภาพพนักงานที่หลายคนอาจจะสงสัยQ&A กับคำถามต่างๆ ของสุขภาพพนักงานที่หลายคนอาจจะสงสัย

 เชื่อว่าหลายคนนั้นในตอนนี้กำลังทำงานอยู่ภายใต้ในองกรณ์ใด องกรณ์หนึ่งอน่างแน่นอนซึ่งการที่เราทำงานอยู่ภายใต้องกรณ์ต่าง ๆ นั้นเราอาจจมีคำถามากมายในเรื่องของสุขภาพดังนั้นในบทความนี้เราอยากจะขอพูดถึง Q&A กับคำถามต่างๆ ของสุขภาพพนักงานที่หลายคนอาจจะสงสัย และในบทความนี้เราได้นำคำตอบมาไว้ให้ทุกคนแล้วนะครับ จำเป็นต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานหรือไม่ ? และคำถามต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในการทำงานด้วยนะครับ  จำเป็นต้องตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานหรือไม่ ?   เชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะสงสัยกันมาอย่างยาวนานว่า “เราจำเป็นที่จะต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน” หรือไม่ ? ซึ่งตามกฎหมายของแรงงานได้ระบุไว้ว่าการที่เราจะต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานนั้นจะมีเพียงเเค่บางอาชีพเท่านั้นที่จะต้องตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงานนะครับ อย่างเช่น อาชีพที่มีความเสี่ยงในด้านความปลอดภัย ความเสี่ยงของสภาพอากาศต่าง ๆ และ ความเสี่ยงในด้านสารเคมี ซึ่งอาชีพไหนที่มีความเสี่ยงมากจะต้องเข้ารับการตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน เพื่อเช็คสภาพร่างกายว่าพร้อมเข้าทำงานหรือไม่ ส่วนอาชีพที่ไม่มีความเสี่ยงนั้นก็ไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพก่อนเริ่มงานก็ได้นะครับ (เเต่ว่าทางบริษัทจะพิจารณารับเข้าทำงานหรือไม่ก็อีกเรื่องนะครับ)  อาชีพไหนบ้างที่ต้องตรวจร่างกายเเบบเจาะลึก   อีกหนึ่งเรื่องที่เราจะต้องเรียนรู้ไว้นั้น อาชีพส่วนมากนั้นจะต้องตรวจร่างกายเเบบธรรมดาซะส่วนมากเพราะว่าไม่ได้เสี่ยงอันตรายอะไรมาก เเต่สำหรับบางอาชีพนั้นจะต้องมีการตรวจร่างกายที่เจาะลึกยกตัวอย่างเช่นงานที่มีการทำงานอยู่กับฝุ่นตลอดเวลา เพราะว่ามีโอกาสที่จะทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจได้นะครับ และ อีกหนึ่งตัวอย่างนั้นคือ ในเรื่องของ การทำงานกับสภาพอากาศที่ย่ำแย่

เคล็ดลับการใช้สมุนไพรรักษาโรคริดสีดวง ให้ได้ผลจริงเคล็ดลับการใช้สมุนไพรรักษาโรคริดสีดวง ให้ได้ผลจริง

คนที่กำลังเผชิญกับโรคริดสีดวง เชื่อว่าทุกคนคงต้องการอยากจะหายโดยเร็วที่สุด เพราะว่าโรคชนิดนี้ยิ่งปล่อยเอาไว้นานเท่าไหร่ ก็จะสร้างความเจ็บปวดให้กับคนที่เป็นมากเท่านั้น ยิ่งเป็นระยะสุดท้ายของริดสีดวง อาการเจ็บปวดก็จะมากขึ้นตามไปด้วย สำหรับการรักษาที่ง่ายที่สุดก็คือใช้ สมุนไพรริดสีดวง ในการรักษา เพราะว่าเป็นของที่หาง่าย และในบ้านบางบ้านก็คิดว่าน่าจะพอหาสมุนไพรเหล่านี้ได้อยู่ ถึงแม้ว่าการใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวงจะได้รับความนิยมและใช้ได้ผลจริง แต่การใช้ก็ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนและวิธีใช้ให้ถูกต้องก่อน ดังนั้นเราจะมารู้จักกับเคล็ดลับในการใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวงกันว่ามีวิธีการอย่างไรบ้าง จึงจะใช้ได้ผลจริง วิธีการใช้สมุนไพรรักษาริดสีดวงให้ผลจริง 1. หาข้อมูลเกี่ยวกับสมุนไพรแต่ละประเภทก่อน สมุนไพรไทยที่มีสรรพคุณช่วยรักษาริดสีดวงนั้นมีหลายชนิด บางอย่างก็หาได้ง่ายตามบ้านเรา บางชนิดก็ขึ้นอยู่ในป่า เพื่อให้คุณเลือกใช้ได้อย่างถูกต้อง แนะนำว่าก่อนที่จะใช้ควรหาข้อมูลของสมุนไพรแต่ละอย่างก่อน ว่าแบบไหนใช้อย่างไร มีสรรพคุณต่างกันอย่างไร เนื่องจากสมุนไพรบางตัว ก็มีฤทธิ์ช่วยในการบรรเทาอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้ช่วยรักษาให้หายขาด 2. วิธีการใช้สมุนไพรแต่ละชนิด